ประวัติสุนัขพันธุ์ปอมเมอเรเนี่ยน (Pomeranian)
สุนัขพันธุ์ปอมเมอเรเนี่ยนเริ่มปรากฏครั้งแรกในประเทศเยอรมันในดินแดนที่ชื่อว่า ปอมเมอเรเนี่ยน และทางตอนเหนือของยุโรปที่ติดต่อกับทะเลบอลติก โดยส่วนใหญ่นิยมเลี้ยงไว้เพื่อเฝ้าและต้อนฝูงแกะ เนื่องจากในสมัยก่อนปอมเมอเรเนี่ยนเป็นสุนัขมีขนาดตัวใหญ่ หลังจากนั้นได้ถูกพัฒนาให้มีขนาดเล็กลงเท่าในปัจจุบัน
ลักษณะทั่วไป
ปอมฯ เป็นสุนัขขนาดเล็ก ลำตัวสั้นกระทัดรัด น้ำหนักประมาณ 4- 6 ปอนด์ มีการแสดงออกถึงความเฉลียวฉลาด ร่าเริงและตื่นตัวอยู่เสมอ ซื่อสัตย์ รักเจ้าของ ขี้ประจบ แต่เป็นสุนัขค่อนข้างตกใจง่าย เห่ามาก ยิ่งตัวเล็กยิ่งเห่าเก่ง โครงสร้างกระชับสมสัดส่วน ลำตัวสั้น มองด้านข้างเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส ส่วนหัวไม่ใหญ่มากนักดูแล้วเหมาะสมกับลำตัว ค่อนข้างแหลมคล้ายสุนัขจิ้งจอก ใบหน้าเล็ก ช่วงต่อระหว่างจมูกกับหัวมีมุมที่ชัดเจน หนังบริเวณมุมปากกระชับไม่ห้อยลง สีบริเวณรอบๆ ตา ริมฝีปากและจมูกมีสีดำ ตามีสีเข้มสดใส ใบหูมีขนาดเล็กตั้งชันขึ้นทั้ง 2 ข้าง หางมีลักษณะเหยียดยาวพาดอยู่บนแผ่นหลัง
อุปนิสัย
เป็นสุนัขที่มีความร่าเริง ซื่อสัตย์และฉลาด มีความตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา มีความสามารถในการรับฟังได้ดี จึงทำให้ปอมเมอเรเนี่ยนเป็นสุนัขเฝ้าบ้านที่ดีเยี่ยม เมื่อมีผู้บุกรุกเข้ามาในบ้านจะเห่าส่งเสียงให้เจ้าของรู้ เป็นสุนัขที่มีประสาทไวในการรับรู้ อารมณ์ของผู้เป็นเจ้าของได้ดีกว่าสุนัขตัวอื่นๆ หลายพันธุ์ และเป็นสุนัขที่ไม่ชอบการทะเลาะเบาะแว้งกับตัวอื่นๆ
ขน
สุนัขปอมเมอเรเนี่ยนมีขน 2 ชั้น ขนชั้นนอกมีลักษณะเหยียดตรง เส้นขนหนาเป็นเงางาม ส่วนขนชั้นในอ่อนนุ่มแต่ไม่ยาวเท่าชั้นนอก แต่ขนบริเวณขาและใบหน้าจะสั้นกว่าส่วนอื่นๆ
สี
สีของสุนัขปอมเมอเรเนี่ยนมีได้หลายสี ขนอาจมีสีเดียวกันตลอดทั้งตัวหรืออาจจะมีสีอื่นแซมบ้างบางส่วน หรืออาจมี 2 สีตัดกัน เช่น สีดำตัดกับน้ำตาลที่บริเวณเหนือตาทั้ง 2 ข้าง จมูก คอ อกทั้ง 2 ข้าง ขาทั้ง 4 และใต้หาง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น